หมัด ปรสิตตัวร้าย
ของน้องหมาก่อโรคได้มากกว่าที่คาดคิด
	
	
					
						“หมัด”
					ปรสิตตัวร้ายที่สร้างปัญหาให้กับน้องหมาได้มากกว่าที่หลายคนคิด
					โดยก่อนที่จะไปทราบว่าหมัดสร้างปัญหาอะไรให้กับน้องหมาได้บ้างนั้นขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกันหมัดซึ่งแตกต่างจากเห็บกันก่อน
					โดยหมัดจะมีลำตัวผอมเรียว วิ่งไว กระโดดได้ จับยาก ไม่ยึดเกาะกับผิวหนังของน้องหมา
					ต่างจากเห็บที่มีลำตัวอ้วนแบน เดินช้า กระโดดไม่ได้ จับง่ายและยึดเกาะกับผิวหนังของน้องหมาได้
					
					ซึ่งปัญหาแรกเมื่อน้องหมาโดนหมัดกัดคือ
					ปัญหาระบบผิวหนัง
					ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าน้องหมาแพ้น้ำลายหมัดหรือไม่ กรณีไม่แพ้น้ำลายหมัดอาจพบแค่รอยผิวหนังอักเสบแดงในบริเวณที่โดนหมัดกัดและหายเองได้
					แต่
					หากน้องหมาแพ้น้ำลายหมัดมักทำให้เกิดผิวหนังอักเสบแดงรุนแรง ขนร่วง มีรอยเกา เลีย แทะ
						กัดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
					
					โดยเฉพาะบริเวณหลังสะโพกและขาหลังทั้งสองข้าง ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลรักษามักทำให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนและกลายเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังตามมาได้
					
					นอกจากนี้
					 หมัดยังเป็นพาหะของพยาธิตัวตืดในทางเดินอาหาร
					คือพยาธิเม็ดแตงกวา (Dipylidium caninum)
					โดยน้องหมาสามารถติดพยาธิชนิดนี้ได้จากการบังเอิญกินหมัดที่มีพยาธิเข้าไปเมื่อกัดเลียเส้นขนหรือผิวหนังจากนั้นพยาธิจะเข้าสู่ทางเดินอาหารของน้องหมา
					
						ทำให้มีอาการท้องเสีย เบื่ออาหาร อาเจียน คันก้น ท้องกาง ขาดสารอาหาร น้ำหนักตัวลด
						ภูมิคุ้มกันตกและติดเชื้อแทรกซ้อน
					ตามมาได้
					
					ยิ่งไปกว่านั้นน้องหมาที่มีหมัดจำนวนมากยังทำให้เกิด
						ภาวะโลหิตจาง และนำมาสู่ปัญหาระบบเลือด การนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายลดลง กล้ามเนื้ออ่อนแรง
					เหนื่อยง่าย ผอมโซ สมองขาดออกซิเจนและมีอาการทางระบบประสาทตามมาได้
					
					จากทั้งหมดจะเห็นได้ว่าแม้หมัดจะตัวเล็กและดูเหมือนไม่มีพิษภัยอะไร แต่แท้จริงแล้วสามารถพานำโรคร้ายและทำอันตรายให้กับน้องหมาของเราได้มากกว่าที่คิด
					ดังนั้น
						การป้องกันหมัดด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพก่อนที่หมัดจะทำร้ายน้องหมาแสนรักของเราจึงมีประโยชน์เป็นอย่างมาก
					 โดยแนะนำให้ควบคุมหมัดโดยใช้ยากินแบบออกฤทธิ์นาน 35 วัน ควบคู่กับการกำจัดหมัดในสิ่งแวดล้อมที่น้องหมาอาศัยอยู่